service
• บริการของเรา •
หมวด | ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย
HIFU ยกกระชับ ปรับหน้าเรียว แบบไม่ต้องใช้เข็ม
Table of Contents
SUPER V Lift (HIFU) คืออะไร
คือ เทคโนโลยีล่าสุดสำหรับการรักษาด้านความงาม คลื่น Ultrasound จะถูกส่งผ่านที่เนื้อเยื้อ แล้วเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อนพลังงานความร้อนจะโฟกัสลงในบริเวณที่ระดับความลึกจนถึงชั้น SMAS เหนือกล้ามเนื้อชั้นเดียวกับที่ผ่าตัดดึงหน้า ทำให้เกิดการหดตัวที่ชั้น SMAS ขนาดเล็ก คล้ายการเย็บเนื้อ ทำให้เกิดการสร้างใหม่ของผิวที่ยกกระชับดูอ่อนเยาว์ นอกจากผลลัพธ์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ไว้
ความรู้สึกขณะได้รับการรักษา
ระยะเวลาในการทำการรักษาแต่ละครั้งนั้นประมาณ 40-60 นาที โดยตลอดการรักษานั้นผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกสบายผิว ไม่มีอาการแสบร้อน นั้นจะส่งพลังงานคลื่นอัลตร้าซาวน์ที่มีความถี่สูงถึง 1,000 ครั้ง/วินาที สูงจนเซลล์ประสาทไม่สามารถสัมผัสได้ จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกเจ็บ จะรู้สึกเพียงความอุ่นเล็กน้อยในบริเวณผิวที่ทำการรักษา
การปฏิบัติตัวหลังทำไฮฟู่(hifu)
1. เมื่อมีอาการเมื่อยหรือตึงที่หน้า สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาได้
2. หลังทำ HIFU เว้นการนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ
3. หลังทำ HIFU เลี่ยงการทำลายคอลลาเจน เช่น ดื่มสุรา แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
4. สามารถทำการรักษาอย่างอื่นได้ทันที
5. หลังการร้อยไหม ฉีดเมโส เว้นการทำ HIFU ประมาณ 6-8 สัปดาห์
6. ห้ามทำ laser ประมาณ 1 เดือน
SUPER V Lift (HIFU)
การเห็นผล ปานกลางถึงมาก ขึ้นอยู่กับสภาพโครงสร้างผิวและใบหน้าของแต่ละคน ผลที่ได้ SUPER V Lift (HIFU) เกิดจากการกระตุ้น Collagen และอาจมีผลกับ พังผืดในชั้น SMAS งานวิจัยที่มีรองรับจะได้ผลในเรื่องของ
– lift the eyebrow
– lift lax submental (beneath the chin) and neck tissue
HIFU สามารถช่วยปัญหาใดได้บ้าง ?
• ยกกระชับผิว (Lifting)
สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย อายุหลังจาก 25 ปี คอลลาเจนต่าง ๆ ที่น้อยลง อาจจะทำให้ผิวเราหย่อนคล้อยได้ ก็สามารถที่จะเลือก ทำ HIFU เพื่อหวังผลเรื่องการกระชับใบหน้าได้
• ยกคิ้ว ยกหางตา
สำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่อง หนังตาตก หรือคิ้วตก จะบอกว่า HIFU ช่วยเรื่องนี้ได้ดีมาก แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบ และที่สำคัญเห็นผลเลยหลังทำ มันดีงามมาก
• ลดแก้ม ลดเหนียงใต้คางและคาง 2 ชั้น
ปัญหากวนใจสาว ๆ หลาย ๆ คน ที่บางคนผอมก็จริง แต่กลับมีปัญหา หรือ ไขมันแก้ม หรือ เหนียงใต้คาง นั่นเอง อาจจะทำให้เราไม่มั่นใจและไม่พร้อมที่จะดูดไขมัน หรือไม่อยากพักฟื้นใด ๆ
• ลดริ้วรอยรอบดวงตา
อย่างที่บอกไป HIFU เป็นการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวให้ทำงาน ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตาที่เกิดจากวัยก็สามารถช่วยได้ และแลดูธรรมชาติ ไม่แข็ง
• รูปหน้าดู V-shape มากขึ้น
การปรับรูปหน้าวีเชฟ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่นิยมใช้ ไฮฟู ในการปรับรูปหน้าเพราะ สามารถยกกระชับ พร้อมลดไขมันที่ใบหน้าเราได้อย่างดี โดยไม่มีแผลใด ๆ
• รูขุมขนเล็กลง
เรื่องรูขุมขนนั้น เรียกว่าเป็นผลพลอยได้ อีกหนึ่งอย่างจากการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเราดูใส รูขุมขนก็เล็กลงตามไปด้วย
• ลดร่องริ้วรอยบริเวณใบหน้า
เช่น หน้าผาก, ร่องแก้ม สำหรับใครที่อยากลดริ้วรอย ร่องแก้ม โดยยังไม่อยากฉีดฟิลเลอร์ หรือมีปัญหาริ้วรอยหน้าผากไม่อยากฉีด
ก็สามารถเลือก HIFU เพื่อช่วยลดร่องแก้ม ริ้วรอยหน้าผากได้ แต่ต้องบอกว่า มันอาจจะไม่ได้ช่วยได้ 100% อาจจะประมาณ 20-40% เท่านั้น เราอาจจะต้องดูแลในทางอื่น ๆ เพิ่มเติมค่ะ
ข้อดีของการทำ HIFU
เหมาะมาก สำหรับสาว ๆ ที่ไม่อยากทำอะไรที่ต้องพักฟื้น หรือกลัวเข็ม ไม่อยากจิ้ม แต่ก็อยากสวยแบบธรรมชาติ นี่เป็นอีก 1 ทางเลือก ที่เรียกได้ว่า ทั้งปลอดภัยและไม่ต้องกังวลเรื่องเข็มอีก ต่อไป
ข้อเสียของการทำ HIFU
จริง ๆ จะบอกว่า ข้อเสียน้อยมาก อาจจะมีอาการแดง ๆ หลังทำบ้างในบางบุคคล และไฮฟูไม่ได้อยู่ถาวร อาจจะต้องทำซ้ำในทุก ๆ 6 เดือน ก็อาจจะเปลืองเงินสาวๆหน่อย
PROMOTION HOT
Q&A คำถามที่พบบ่อย
Q
ทำ HIFU กี่ช๊อตดีคะ ถึงจะเห็นผล ?
A
HIFUจะใช้ปริมาณกี่ช็อตนั้นต้องขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าปัญหาแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความหย่อนคล้อยมีริ้วรอย ฉะนั้นการใช้ปริมาณกี่ช็อตจึงต้องเป็นการประเมินจากแพทย์รายบุคคลว่าจะแต่คนต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่
ไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้จากการสร้างคอลลาเจนกลายเป็นทำลายคอลลาเจนใต้ผิวแทนก็ได้ นอกจากไม่เห็นผลแล้ว อาจจะทำให้ผิวไหม้ได้ค่ะ
แต่ก็ไม่ควรทำน้อยเกินไปเพราะอาจจะทำให้ไม่เห็นผลเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเข้าไปปรึกษาแพทย์ดูอีกที ปกติประมาณ 200-600 ค่ะ
Q
hifu กับ เมโสแฟต อันไหนลดเหนียงได้ดีกว่ากัน ?
A
ถ้าตอบกันตามตรงจะบอกว่า คงไม่มีอันไหนดีกว่ากัน มีแต่ว่าอันไหนจะเหมาะสมกับเรามากกว่า ตรงนี้จะบอกว่าต้องให้แพทย์ประเมินเคสอีกแล้ว แต่พอจะบอกคร่าว ๆ ได้ว่า
เช่น ปัญหาหากเราแก้มเยอะมาก แต่อายุยังไม่เยอะเท่าไหร่ คอลลาเจนยังดี ไม่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย ก็แนะนำว่าให้ฉีด เมโสแฟต เพราะจะแก้ปัญหาได้ตรงจุดกว่า
ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกหลายตัวยา เช่น LLD FAT หรืออีกตัวที่คลินิกนิยม ไขมันลงเร็วและไม่บวมคือ fat bomb แต่หากเราอายุเริ่มเยอะขึ้น มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ แก้ม เหนียงเยอะ
อาจจะเหมาะกับการทำ hifu เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทั้ง 2 อย่าง แต่หากไขมันเยอะมากจริงๆ แบบแน่น ๆ เลย อาจจะต้องทำทั้ง 2 อย่าง หากต้องการผลที่ชัดเจนมาก ๆ
Q
hifu กับร้อยไหม อันไหนดีกว่ากัน ?
A
ถ้าหากถามว่าแบบไหนดีกว่ากันต้องถามว่ากังวลในด้านไหนและมีปัญหามากน้อยแค่ไหน โดยhifu
จะเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการพักฟื้น ไม่มีรอยใดๆเลย มีไขมันแก้ม ผิวไม่ได้หย่อนคล้อยมาก จะเหมาะกับ hifu ส่วนคนที่มีปัญหาการหย่อนคล้อยค่อนข้างเยอะ
อาจจะต้องทำอย่างอื่นควบคู่ ร้อยไหมก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยยกกระชับได้ดี ในกลุ่มที่มีปัญหาการหย่อนคล้อยของใบหน้าเยอะ
คลิกอ่านบทความร้อยไหมปากฉลามตัวใหม่ล่าสุด
Q
hifu กี่วันเห็นผลคะ อยู่นานแค่ไหน ?
A
hifu จะเห็นผลหลังทำทันทีนะคะว่า ยกกระชับขึ้น โดยประมาณ 10-30% ปกติหมอก็จะยิงให้เราดู
จะเห็นเลยว่าผิวดูแน่นขึ้น แต่การเห็นผลระยะยาวนั้น ต้องรอเวลานิดนึง ในการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งเวลาการเห็นผล hifu คือ 1-3 เดือน
และสามารถอยู่ได้นาน 6-8 เดือน แนะนำเพื่อผลที่ชัดเจน ควรทำทุก 6 เดือนค่ะ
Q
เครื่อง hifu ยี่ห้อไหนดีสุด?
A
ปัจจุบัน เครื่อง hifu(ไฮฟู่) มีหลากหลายยี่ห้อที่เข้ามาในไทย ซึ่งบางส่วนเครื่องก็ไม่ได้มาตฐาน หรือไม่ผ่านอยไทย
ทำให้พลังงานที่ออกมานั้นอาจจะไม่เสถียร ทำให้การเห็นผลไม่ดีเท่าที่ควร หรืออาจจะอยู่ได้ไม่นาน โดยปกติเครื่อง hifu นั้นจะต้องมีการเปลี่ยนช๊อตมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
หากเครื่อง hifu ที่ไหนที่สามารถยิงได้ตลอดไม่ต้องเปลี่ยนจำนวนช๊อตนั้น อาจจะมีปัญหาเรื่องพลังงานดรอป ไม่เห็นผลได้
ดังนั้นการเลือกเครื่องในการทำก็สำคัญ แต่ที่สำคญสุดคือค่าพลังงานที่ยิงออกมาต้องเสถียรและลงถึงชั้นผิวอย่างตรงจุด
Review
Before & After